วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 09, 2560

ตอบกันตรึม คำถามอีก ๖ ข้อของประยุทธ์ “เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็เหมือนนักการเมืองคนหนึ่ง"

อ่า คำถามต่อประชาชนอีก ๖ ข้อ*ของประยุทธ์นี่ มีแต่คนอยากตอบ เพราะมันโยนหินถามทางไปสู่การนั่งแช่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกรอบ โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง

เห็นได้จากข้อ ๒ ที่ถามว่า “การที่ คสช. จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด ก็ถือเป็นสิทธิของ คสช. ใช่หรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว”

การสนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่งใดหรือหลายพรรค จะว่าเป็นการหวังผลให้พรรคเหล่านั้นสนับสนุนตนเข้าไปเป็นนายกฯ คนนอก หลังเลือกตั้งก็ได้

แน่นอนว่ามีคนในแวดวงพรรคการเมืองน้อยใหญ่ออกมาตอบคำถามของหัวหน้า คสช. กันตรึม พิชัย นริพทะพันธุ์ และร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต หมวดเจี๊ยบจากค่ายเพื่อไทยบอก ไม่ใช่


นายพิชัยว่า นำไปสู่การใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบแก่พรรคการเมืองส่วนผู้หมวดหญิงสุนิสาเฉาะกลางแสกหน้า “จ้องจะเลือกข้างสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค”

มุ่งหมายที่จะ “ช่วยพรรคการเมืองที่ตัวเองสนับสนุนเพื่อหาเสียง เพราะหวังส่วนแบ่งทางการเมืองหากพรรคการเมืองดังกล่าวชนะเลือกตั้ง”


ด้านพรรคประชาธิปัตย์ พวกตัวหัวๆ ต่างวางท่าเล็กน้อยในที ว่าไม่ควรตั้งคำถามแบบนี้ “เป็นการกระทำที่อิงการใช้อำนาจรัฐ เป็นเรื่องขัดกับหลักธรรมาภิบาล” นี่จากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

ส่วนนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองฯ “ชี้ว่าไม่เหมาะสม เและมีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้อำนาจผ่านกลไกราชการ ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองอื่น


ระดับรองโฆษกพรรคอย่าง ณัฏฐ์ บรรทัดฐาน อัดแหลกข้ามช้อตไปโน่น “หากพรรคการเมืองที่ คสช. หรือ พล.อ. ประยุทธ์จะสนับสนุน เกิดพ่ายแพ้หรือเพลี่ยงพล้ำ หรืออาจบริหารประเทศได้เลวทรามชั่วช้าในสายตาประชาชน...

จะมีหลักประกันใดที่จะยืนยันว่า คสช. จะไม่ลากปืนใหญ่ รถถังออกมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันให้พรรคการเมืองที่ท่านสนับสนุนยังคงอยู่ในอำนาจต่อไป”


สำหรับนักพิทักษ์รัฐธรรมนูญอย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา ฟันธงเชะเลยว่า “คสช.ไม่มีสิทธิที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด ต้องวางตัวเป็นกลางเท่านั้น เพราะ คสช.และแม่น้ำ ๕ สายเป็นผู้วางกฎระเบียบใหม่ของสังคม

หาก คสช. อยากจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะ ก็ขอให้ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดเสีย ณ บัดนี้ อย่าทำตนเป็นอีแอบต่อไป”

ศรีสุวรรณยังจับไต๋ คสช. ทำเนียนแอบหาเสียงในข้อ ๓ โดยย้อนว่า “ในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา ประชาชนมองไม่เห็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติเลย...

เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็ง ที่ใช้ประชาชนเป็นข้ออ้างเท่านั้น แต่กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุนใกล้ชิดรัฐบาลแทบทั้งสิ้น อีกทั้งเป็นการสร้างปัญหาใหม่เพิ่มมากกว่าเดิม...

ส่วนยุทธศาสตร์ชาติหากประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ เพราะไม่มีการะบวนการการมีส่วนร่วม ก็เป็นสิทธิของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จะแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ประชาชนต้องการ”


ถึงกระนั้นพวกตัวรองๆ ของ คสช. ก็ยังพยายามแก้ต่าง แก้ตัวแทนหัวหน้ากันน้ำขุ่นๆ ฝ่ายมั่นคง พล.อ.ประวิตร “ยืนยันว่า คสช.ไม่ได้หาเสียงทางอ้อม” ถ้ายังอยากรู้จริงๆ ให้ไปถามนายกฯ เอง เพราะประยุทธ์เป็นคนตั้งคำถาม

ทั่นรองฯ ด้านกฎหมาย วิษณุ เครืองาม นั้นบอก “ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว” แต่อธิบายได้ยืดยาวเป็นคุ้งเป็นแควว่า “ทุกวันนี้มีแต่ดาราทางการเมืองออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้...ลองให้ประชาชนให้แสดงความเห็นว่ามองเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรนอกเหนือจากฝ่ายการเมืองเป็นผู้พูด” บ้าง

รองฯ วิษณุยังพาดพิงไปถึง นักการเมือง กปปส. ในพรรคประชาธิปัตย์ ถาวร เสนเนียม ที่ว่านี่คือสัญญานของการที่ประยุทธ์เตรียมตัวลงเล่นการเมือง ว่าต้องเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว

“เพราะขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็เหมือนนักการเมืองคนหนึ่ง แต่นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ระบุว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง”


อะพิโธ่เอ๊ย พายเรือเรียบค่ายกันมาเป็นวรรคเป็นเวร ท้ายที่สุดก็เป็นชั้นเชิงการเมืองแบบบังคับขับไส ให้พวก คสช. ได้ครองเมืองกันนานๆ เท่านั้นเอง



*(หมายเหตุ :ดูรายละเอียดคำถาม ๖ ข้อได้ที่ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/1789546114671606)