วันเสาร์, พฤศจิกายน 11, 2560

ทำไมแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะกลายเป็นเพียงกระดาษชำระหลังเลือกตั้ง ขณะที่กรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะกลายเป็นตัวตลก - Thanapol Eawsakul





ทำไมแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะกลายเป็นเพียงกระดาษชำระหลังเลือกตั้ง ขณะที่กรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะกลายเป็นตัวตลก
..................

ผมไม่ค่อยยเห็นด้วยกับการประเมิน“คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ” ตามตัวอักษรที่เขียนไว้ในกฎหมาย

ดังบทวิเคราะห์ของหลายท่าน

https://www.facebook.com/iLawClub/photos/pb.299528675550.-2207520000.1510326386./10159645424335551/?type=3&theater

https://www.facebook.com/pg/the101.world/videos/?ref=page_internal

สำหรับผมแล้ว ถึงแม้จะมีความพยายามวางกลไกรัฐธรรมนูญ เพื่อลดทอนอำนาจการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมากสักเพียงใด ก็ตาม แต่สิ่งที่คณะรัฐประหารไม่สามารถได้คือการที่จะ “ชนะใจ” ผู้เลือกตั้งได้

ที่พูดแบบนี้อาจจะมีคนเถียงได้ว่าเป็นข้อสมมติฐานที่ใช้ไม่ได้ เพราะคณะรัฐประหารยังไม่เคยลงเลือกตั้ง แต่ถ้าเปลี่ยนคำถามว่า ถ้าคณะรัฐประหารมั่นใจในความนิยมของตัวเอง ทำไมไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง แล้วกลับเข้าสู่การเมืองที่ “สง่างาม” ก็ได้เช่นกัน

สำหรับผมแล้ว คณะรัฐประหารชุดนี้ไม่เคยได้รับความนิยม สิ่งที่หล่อเลี้ยงคณะรัฐประหารมีอยู่เพียง 3 ปัจจัยหลักคือ

1.การสนับสนุนของเหล่าอำมาตย์ ดังจะเห็นได้จาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ให้การสนับสนุนรัฐบาลรัฐประหารมาโดยตลอด

2.ความเกลียดกลัว “ระบอบทักษิณ” ว่าเป็นระบอบ/วิกฤต ที่ร้ายแรงที่สุดในโลก ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างน้อยก็มากกว่า 10 ปี

3.ความเชื่อที่ว่าคณะรัฐประหารไม่เล่นการเมือง อย่างน้อยก็เป็นการเมืองโดยผ่านการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกันระยะเวลา 3 ปี ครึ่งท่านมา คณะรัฐประหารไม่สามารถสร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรมได้ แม้แต่ผลงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว คือโครงการคมนาคม ขนาด 2 ล้านล้านบาท คณะรัฐประหารยังไม่มีปัญญาจะสานต่อให้เสร็จสิ้น ทั้ง ๆ ที่โฆษณาชวนเชื่อมาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นคนที่ยังคงสนับสนุนคณะรัฐประหาร แม้จะยังมี แต่ก็ลดน้อย ถอยลงอย่างเห็นได้ชัด

นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมคอรัปชั่นที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อม ๆ กับการทุ่มงบประมารณไปมหาศาลกับการซื้ออาวุธของกองทัพ

ดังนั้นการเลือกตั้ง ถ้าจะมีในปี 2561 หรือ 2562 คณะรัฐประหาร หรือพรรค/คนที่คณะรัฐประหารสนับสนุน จึงไม่อาจจะเป็นตัวเลือกให้กับคนไทยแม้แต่คนที่เคยเชียร์รัฐประหารมาโดยตลอดก็ตาม

กลับกัน พรรคการเมืองเดิม ก็จะเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องจากกฎหมายพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้พรรคเล็กได้เกิด

ขณะที่พรรคทหาร ถ้าจะมีก็เป็นพรรคไม่เกิน 20 เสียงอย่างแน่นอน ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1.การที่ไม่มีตัวเลือกที่มีความนิยม (แม้แต่ครม. ยังหาคนที่ ดี/เด่น/ดัง มาร่วมยังไม่ได้เลย )
2.เหตุผลที่คนเชียร์รัฐประหาร คือการเกลียด/กลัวการเลือกตั้ง เมื่อคณะรัฐประหารมาลงเลือกตั้งเสียเอง แล้วจะมีใครเลือก
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อพรรคการเมืองเดิมก็ยิ่งจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ

แล้วคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติจะมีน้ำยาอะไร

แม้จะมีการเขียนกฎหมายให้อำนาจคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ไว้มากมายในการสกัดกั้นการดำเนินนโยบายของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดำรงอยู่ของคณะรัฐประหารมันไม่ใช่เรื่องกฎหมายอะไรเลย เพราะถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์จริง คณะรัฐประหารก็ต้องโดนประหารหรือเข้าคุกกันหมดแล้ว แต่คือ “ความชอบธรรม” และยิ่งกรรมการจำนวนมากมาจากข้าราชการ ทั้งข้าราชการประจำ หรือข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว หรือเป็นเครือข่ายอำมาตย์ แล้วทักษะอย่างเดียวที่เขา/เธอ มีคือทักษะในการระบบราชการ แต่ไม่มีปัญหาจะมีสร้างวิสัยทัศน์อะไรให้ประเทศชาติ คนเหล่านี้จะเป็นแค่ “ตัวอิจฉา” ที่คอยขัดแข้งขัดขารัฐบาลเท่านั้น แต่การที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จะเล่นงานรัฐบาล นั้นไม่ได้หมายถึงการเล่นงานนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น แต่หมายถึงการเล่นงานประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองมาด้วย คำถามคือคนเหล่านั้นกล้าพอที่จะลงมาต่อกรกับประชาชนจริง ๆ หรือ ถ้าไม่มีแบคอัพ


Thanapol Eawsakul