วันเสาร์, กรกฎาคม 29, 2560

น้ำท่วมปีนี้ ก.ค. ๖๐ หัวหน้าใหญ่ คสช. กำลังเอาอยู่หรือเปล่าไม่รู้ เห็นมัวแต่ “พูดหาเสียงในโทรทัศน์”

สกลนครกำลังอ่วม น้ำท่วมหนักในรอบ ๓๐ ปี เกือบทั้งจังหวัดเป็นอัมพาต ต้องปิดสนามบิน เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นพัง น้ำทะลักเข้าที่ชุมชน เขตเทศบาลเมืองต้องใช้เรือท้องแบนจึงเข้าถึงได้

นี่ไม่ใช่แห่งเดียวในภาคอีสาน ซึ่งมีพายุฝนโซนร้อน เซินกาถล่มทั่วภูมิภาคมาตลอดสามสี่วัน เป็นผลให้เกิดอุทกภัยในจังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่นครพนม กาฬสินธุ์ ย้อนไปร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยันขอนแก่น

ที่นครพนม น้ำล้นจากสกลลงสู่ลำน้ำก่ำ ระบายออกแม่โขงไม่ทัน ซ้ำน้ำในหนองหานก็ท่วมล้น ทำให้อำเภอนาแกกลายสภาพเป็นอ่างเก็บน้ำ

 
เช่นเดียวกับที่กาฬสินธุ์ ฝนตกหนักมาก น้ำในห้วยสีทนล้นทะลักท่วมเขตเทศบาลเมืองรุนแรงที่สุดในรอบ ๔๐ ปี ทางการสั่งให้ประชาชนอพอพออกจากพื้นที่ใน ๑๐ ชุมชน เพื่อป้องกันอันตราย

ทางด้านมหาสารคาม อ่างเก็บน้ำห้วยขอนสักล้นทะลักเซาะคอสะพานขาด ถนนสาย ๒๐๘ ใช้การไม่ได้ เป็นผลกระทบทั้งเส้นทางจากร้อยเอ็ดไปถึงขอนแก่น

บางท้องที่ในภูมิภาคอื่นก็ไม่เว้น เช่นที่สุโขทัยและระนอง ที่สุโขทัยชาวตลาดออกมาลุยน้ำกลางถนนกันถึงเข่า ส่วนที่ระนองชาวบ้านต้องขึ้นไปนั่งเจ่าบนหลังคา ยังไม่แน่ว่าพายุฝนจะหยุดในเร็ววัน

 
ถึงกระนั้นก็อาจมีน้ำสะสมระบายจากเขาเข้าเมืองอีกกี่จังหวัดก็ไม่รู้ ชวนให้หวนไปถึงน้ำท่วมใหญ่ในรอบ ๗๐ ปี เมื่อตอนกรกฎาคม ๒๕๕๔ ที่พอถึงพฤศจิกายนปีนั้น ๖๕ จังหวัดได้รับผลกระทบ มีผู้เสียชีวิตกว่า ๖๐๐ คน

คงจำกันได้ตอนนั้นแรกๆ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เชื่อว่า เอาอยู่ครั้นเมื่อเขื่อนต่างๆ รายรอบมหานครรับน้ำไม่ไหว เพราะฝนไม่ยอมหยุดตก จึงต้องมีการปล่อยออกรักษาความมั่นคงของเขื่อน น้ำจึงเฮโลเข้ากรุงเสียจนยิ่งลักษณ์เอาไม่อยู่

แต่คราวนี้บิ๊กตู่ นายกฯ ในดวงใจของพวกซ่าหริ่ม นกหวีดติดคอ ยังจ้อแต่เรื่อง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของพระราชอาณาจักร (โดยเฉพาะในช่วงจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา (รัชกาลที่ ๑๐) จนกระทั่งถึงวันถวายพระเพลิง (รัชกาลที่ ๙)

หัวหน้าใหญ่ คสช. กำลังเอาอยู่หรือเปล่าไม่รู้ เห็นมัวแต่ “พูดหาเสียงในโทรทัศน์” (as per ‘Pavin Chachavalpongpun’) แล้วก็ยังไม่ยอมลงพื้นที่ “ลุงเค้าทำได้ดีกว่าทักษิณตรงขอรับบริจาคนี่ล่ะค่ะ ไว้ไว 5555” (ดังที่ พิพัฒพันธุ์ วีณพัตรา คอมเม้นต์)

นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศรับบริจาคช่วยเหลือผ่านเข้าสู่ กองทุนผู้ประสบสาธารณะภัย ให้ประชาชนโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม เป็นต้นไป

นอกจากดูเหมือนจะไม่เร่งร้อนลงพื้นที่แล้ว เห็นได้ว่านายกฯ คนนี้ เคร่งครัดระเบียบการอยู่ไม่น้อย ชาวบ้านจะสำลักน้ำตาย ขนาดเรี่ยไรขอเงินช่วยเหลือยังต้องรออีกตั้งหนึ่งอาทิตย์

แถมคุยทับเสียด้วยว่ากองทุนฯ มีเงินสำรองอยู่ในธนาคารกรุงไทย ตั้ง ๗๐๐ กว่าล้านบาท


ไม่ต้องเร่งโอนบัญชียึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์เข้าคลังเพราะเรื่องนี้มั้ง เงินช่วยน้ำท่วมเยอะแล้ว แต่ถ้าเอาไว้ใช้ซื้อเรือดำน้ำภายหน้าเผื่อน้ำท่วมหนักกว่าเดิมอีก ก็ไม่แน่

มิหนำซ้ำตอนนี้ ปปช. กำลังชงเรื่อง เชือด รวมหมู่ ทั้งยิ่งลักษณ์และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ๓๔ คน ข้อหา “จ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๓)

ว่าถือเป็นการ “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของประเทศจำนวน ๑,๙๒๑,๐๖๑,๖๒๙.๔๖ บาท”

ดูจากตัวอย่างคดีจำนำข้าว คราวนี้นอกจากจะลากพรรคเพื่อไทยเข้าคุกกันระนาวแล้ว ความเสียหาย ๒,๐๐๐ ล้านบาทนี้ คงมีการไล่อายัดกันสนุกสนานด้วย

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ปปช. ออกมาแถลงแจ้งโทษเมื่อวันก่อน (๒๖ ก.ค.) ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์สั่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุม (ย้อนไปถึงที่ออกมาต้านรัฐประหาร ๒๕๔๙ ด้วย) จากงบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน

“ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีกฎหมายใดมารองรับ” จึงเหมาเอาว่า “เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของตนเอง”


เห็นแจ้งเรื่องจริงกันอีกครั้งมั้ยนี่ การเยียวยาผู้เสียหายจากการต่อต้านรัฐประหารทั้งสองครั้ง กลายเป็นช่วยเหลือพวกพ้องไปเสียฉิบ