วันศุกร์, พฤษภาคม 27, 2559

ระดมคูรทั่วประเทศลงพื้นที่ผลักดันรธน.ฉบับดาวอังคาร




ที่มา Pracha Talk
.....

ครู ก.

โดย แม่ลูกจันทร์ 18 พ.ค. 2559 05:01

แผนปฏิบัติการฉุดกระชากลากดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยให้คลอดออกมาใช้ตามโรดแม็ป คสช.

จะเริ่มต้น “สตาร์ต อัพ” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

วันนี้ (18 พ.ค.) รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยจะนัดประชุมวิทยากร (ครู ก.) ที่คัดเฟ้นข้าราชการหัวกะทิจังหวัดละ 5 คน รวม 385 คน ให้เข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น 2 วันเต็ม

วิทยากร ครู ก. จะประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบของ คสช. สาธารณสุขจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด และหัวหน้าหน่วยราชการระดับจังหวัด อีก 1 คน

เพื่อมอบภารกิจสำคัญ เป็นแม่ทัพหน้าเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าหลังจาก “ครู ก.” ทั้ง 385 คน ได้รับการติวเข้มวิทยายุทธ์จนเชี่ยวชาญ ก็จะรีบเดินทางกลับไปจังหวัดของตัวเอง เพื่อจัดตั้งศูนย์สนับสนุนเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญระดับอำเภอ

โดยจะเปิดคอร์สฝึกอบรม “วิทยากร ครู ข.” ซึ่งคัดจากข้าราชการฝีมือดีอำเภอละ 10 คน รวมทั้งสิ้น 878 อำเภอ

“ครู ข.” ซึ่งงอกเพิ่มมาอีก 8,780 คน จะเป็นหัวหอกลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์คุณงามความดีของ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย ตามใบสั่งจาก “ครู ก.”

อย่างไรก็ดี เพื่อให้การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญครอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้วของประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์

ครู ข. 8,780 คน จะต้องเร่งเปิดหลักสูตรอบรมวิทยากรระดับหมู่บ้าน หรือ “ครู ค.” ซึ่งได้คัดเฟ้นตัวเจ๋งๆ หมู่บ้านละ 4 คน จาก 80,491 หมู่บ้าน ทั่วประเทศไทย

ทีนี้ก็จะมี “ครู ค.” งอกเพิ่มมาอีก 321,964 คน แยกกระจายไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกครัวเรือน

ฉะนั้น ไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะอยู่แห่งหนตำบลใดไม่ว่าใกล้หรือไกล

ท่านจะต้องได้พบ “ครู ค.” ที่จะไปเคาะประตูบ้านท่านอย่างแน่นอน

ต่อให้ท่านหลบไปเข้าส้วม “ครู ค.” ก็จะยืนคอยหน้าประตูส้วม เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญด้วยความทรหดอดทน

เรียกว่าลุยถั่วแบบถึงลูกถึงคนกันทีเดียว

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า “ครู ก.” 385 คน บวก “ครู ข.” 8,780 คน บวก “ครู ค.” อีก 321,964 คน

รวมเป็นกองทัพครู กขค. 331,129 คน

โอ้แม่เจ้า...เยอะแยะมากมายมหาศาลมโหฬาร

แต่...รัฐบาลยังเห็นว่าเยอะน้อยไป

จึงต้องระดมสรรพกำลัง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ครู อาจารย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสหกรณ์ นักเรียน รด. ลูกเสือชาวบ้าน อาสาสมัครป้องกันชาติ อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครป้องกันสาธารณภัย และกลุ่มมวลชนจัดตั้งของ กอ.รมน. ฯลฯ รวมพลังช่วยสนับสนุนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญกันอย่างพร้อมเพรียง

“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าขบวนกฐินสามัคคีเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ร่างรัฐธรรมนูญจะมีจำนวนมากกว่า “5 แสนคน”

คงต้องมีภาระเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเพิ่มอีกบานตะไท

จัดหนักๆ จัดเต็มๆ จัดเน้นๆ เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญมีชัย “ผ่าน” ประชามติได้อย่างสะดวกโยธิน

สะดวกโยธินหรือไม่...วันที่ 7 สิงหาคมได้รู้กัน.

แม่ลูกจันทร์

.....

ความเห็นจากผู้อ่าน...

ทำผิดกฎหมายรณรงค์ให้รับหรือให้ออกเสียงไปในทางหนึ่งทางใด......ใช่หรือไม่......????

ถ้ามีคนไปแจ้งความ .......ครูจะติดคุกสิบปีหรือไม่

กระทรวงมหาดไทยกำลังทำผิดกฎหมายการลงประชามติหรือไม่ มาตรา62 แก่ผู้ทำให้เกิดความวุ่นวาย หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงหรือออกเสียงอย่าง ใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียงตลอดจนผู้ที่เผยแพร่ข้อความ ภาพและเสียงในสื่อต่างๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงโดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิ ออกเสียงหรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียง โดยให้ถือว่าผู้นั้นก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความ เรียบร้อยต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ หากพบว่ามีความรุนแรง ศาลอาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปีด้วยก็ได้ หรือหากเป็นกรณีการกระทำผิดของคณะบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี

การไม่กล่าวถึงข้อเสียของรธน.โดยเจตนาถือเป็น การบิดเบือน ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือไม่..............
ooo

เงินไม่พอ

โดย แม่ลูกจันทร์ 27 พ.ค. 2559
ไทยรัฐออนไลน์


ของฟรีไม่มีในโลกฉันใด การทำงานใหญ่จึงต้องใช้เงินเยอะเป็นธรรมดา

สาเหตุจากรัฐบาลอยากให้ร่างรัฐธรรมนูญมีชัย ผ่านประชามติออกมาได้อย่างสะดวกโยธิน

จึงได้ระดมวิทยากร ครู ก. ครู ข. ครู ค. มากกว่าสามแสนคน เดินสายเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความดีเลิศประเสริฐศรีของร่างรัฐธรรมนูญอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

การใช้คนจำนวนมากขนาดนี้... ต้องใช้งบอัดฉีดก้อนโต

ล่าสุด อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมายอมรับเองว่างบกระทรวงมหาดไทยที่เตรียมไว้ 198 ล้านบาท...ไม่พอยาขี้ฟัน

กระทรวงมหาดไทยจึงขอร้อง “อจ. มีชัย” ในฐานะโต้โผใหญ่ ช่วยเจรจากับรัฐบาลขอเพิ่มงบเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ

เพื่อเอาไปจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กองทัพครู ค. สามแสนกว่าคนที่ต้องลงพื้นที่พบประชาชนทุกอำเภอ ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ทุกหลังคาเรือน

“แม่ลูกจันทร์” เข้าใจผิดอย่างแรงที่คิดว่าการประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญรวมอยู่ในงบจัดออกเสียงประชามติ 3,000 ล้านบาทของ กกต.

เพิ่งทราบความจริงจาก “อจ.มีชัย” ว่าโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญใช้งบพิเศษของกระทรวงมหาดไทย

แสดงว่าค่าทำคลอดร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องใช้เงินภาษีประชาชนเกินสามพันล้านบาทแน่นอน

แต่จะเกินไปอีกเท่าไหร่ อจ.มีชัย ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขชัดเจน

อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” เห็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องจัดงบฉุกเฉินเร่งด่วนให้กระทรวงมหาดไทยเอาไปจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ครู ค.เพิ่มเติมให้พอเพียง

เพราะการเดินสายเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่งานการกุศลฟรีๆ

แต่เป็นงานจ้างพิเศษที่ต้องมีรายได้ตอบแทน

ข้อสำคัญภารกิจลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญติดต่อกัน 2 เดือน เต็มๆ ถือเป็นงานหนัก

ครู ค. จึงสมควรได้รับเบี้ยเลี้ยง ตอบแทนไม่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ300 บาทต่อวัน

“แม่ลูกจันทร์” ลองคำนวณเบี้ยเลี้ยง ครู ค. ที่ต้องลุยถั่วประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นเงินเท่าใด??

สรุปว่า ครู ค. 1 คน มีภารกิจเคาะประตูบ้านประชาชนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม รวมเวลาประมาณ 60 วัน

ครู ค. จะได้รับเบี้ยเลี้ยงอัดฉีดเป็นเงิน 18,000 บาท ต่อคน

ถือว่าไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินควร

แต่ปัญหาคือกระทรวงมหาดไทยคิดการใหญ่เกินควร ระดมครู ค.มากมายถึง 321,964 คน

ต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ครู ค. เป็นเงิน 96.5 ล้านบาท ต่อวัน

หรือ 2,895 ล้านบาท ต่อเดือน

ดังนั้น การที่ครู ค. 3.2 แสนคน ต้องเดินสายเคาะประตูบ้านนานถึง 2 เดือน

กระทรวงมหาดไทยจึงต้องแบกภาระจ่ายเบี้ยเลี้ยงครู ค. เป็นเงินรวมทั้งสิ้นถึง 5,790 ล้านบาททีเดียว

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าเฉพาะเบี้ยเลี้ยงครู ค.อย่างเดียว ใช้เงินมากกว่างบ กกต.จัดประชามติเกือบเท่าตัว

โอ้แม่เจ้า...ฟังแล้วอึ้งมั้ยล่ะคุณ.

“แม่ลูกจันทร์”