วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 22, 2559

การสื่อสารเดี๋ยวนี้ไร้พรมแดน อ่านดูการวิเคราะห์ของสื่อ ต่างชาติ "ว่าด้วยคดีจำนำข้าว"




การ์เดียนชี้การตั้งข้อหาอาญา ‘ยิ่งลักษณ์’ อาจเป็นกลเกมต่อรองให้กลุ่มชินวัตรยอมโอนอ่อนผ่อนปรน ขณะวอชิงตันโพสต์มองว่า การโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้งรังแต่ทำให้ ‘ทักษิณ’ ได้แต้มทางการเมือง


นสพ.อังกฤษ-สหรัฐฯ วิเคราะห์ ‘คดีจำนำข้าว’

by Sathit M.
20 กุมภาพันธ์ 2558
Voice TV

เมื่อวันพฤหัสบดี เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ในอังกฤษ เผยแพร่บทบรรณาธิการ ระบุว่า ชีวิตทางการเมืองของคนไทยนับแต่รัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว มีทั้งเรื่องตลกและเรื่องเศร้า




เรื่องตลกข้อแรก รัฐบาลไทยต้องลบทิ้งฉากเด็กนักเรียนวาดภาพฮิตเลอร์ในหนังโปรโมตค่านิยม 12 ประการ เรื่องตลกข้อที่สอง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยสภาที่ไม่มีอำนาจถอดถอน หรือถึงแม้มีอำนาจ ก็ไม่อาจอธิบายได้ว่า คนที่พ้นตำแหน่งไปแล้วจะถูกถอดถอนซ้ำอีกได้อย่างไร

เรื่องตลกข้อที่สาม แต่เป็นตลกขื่น คือกรณีผู้วิจารณ์รัฐบาลถูก “เชิญตัว” เข้าค่ายทหารเพื่อ “ปรับทัศนคติ” เรื่องตลกข้อที่สี่ เป็นกรณีถึงโรงถึงศาล ผู้ต่อต้านการรัฐประหารถูกไต่สวนในศาลทหาร ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์คำพิพากษา และถูกบังคับให้ลงนามยินยอมถูกอายัดทรัพย์หากเคลื่อนไหวทางการเมือง เรื่องตลกข้อที่ห้า ฝ่ายตรงข้ามถูกเล่นงานด้วยข้อหาคอร์รัปชั่น แต่ฝ่ายผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารถูกปล่อยปละละเลย

เรื่องตลกล่าสุดเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีเมื่ออัยการสูงสุดส่งฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้พลิกโฉมการเมืองไทยเมื่อทศวรรษครึ่งล่วงมาแล้ว ทักษิณได้ตอบสนองความต้องการ ความปรารถนา และความคับข้องใจของคนส่วนใหญ่ซึ่งมีฐานะด้อย โดยเฉพาะในเขตชนบท ส่งผลให้เขาและตัวแทนของเขาชนะเลือกตั้งทุกครั้ง

“ชนชั้นนำไทยทั้งขุ่นเคืองและมึนงง มองว่าเสียงส่วนใหญ่ที่ทักษิณได้รับนั้นไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ทักษิณซื้อเสียง ทักษิณเป็นนักประชานิยมเหมือนนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี แม้กระนั้น ผู้คนก็ยังคงโหวตเลือกเขา” เดอะ การ์เดียนระบุ

“การใช้เล่ห์เพทุบาย การเล่นกลทางกฎหมาย และล่าสุด การแทรกแซงของทหาร ล้วนแต่ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ปรากฎการณ์ทักษิณจะไม่สลายหายไป และจะไม่เสื่อมคลายแม้ทักษิณพ้นเวทีไปแล้วก็ตาม”

บทบรรณาธิการบอกอีกว่า ขณะที่กองทัพและเหล่าพลเรือนที่เป็นพันธมิตรลงแรงอย่างไร้ผล ที่จะสร้างระบบการเมืองที่ดูดี แต่เป็นระบบที่กลุ่มทักษิณไม่อาจครองชัยชนะได้นั้น มีสัญญาณว่าบางปีกในระบอบทหารมีความเข้าใจดีว่า การโอนอ่อนผ่อนปรนอาจเป็นวิธีที่ได้ผลและสอดคล้องความเป็นจริงมากกว่า ผู้เจรจาลับจึงเดินทางไปๆมาๆระหว่างกรุงเทพกับดูไบ ถิ่นพำนักของทักษิณ การตั้งข้อหายิ่งลักษณ์อาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ใช้ทั้งการต่อรองและการขู่

ในตอนท้าย เดอะ การ์เดียน บอกว่า เรื่องเศร้าสำหรับไทยก็คือ ประเทศนี้กำลังเสียเวลาเปล่า เศรษฐกิจย่ำแย่ในห้วงเวลาที่จำเป็นต้องขยายตัว สถานะของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านกำลังถดถอย เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของไทยที่มีกับพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐ

“ความพยายามที่จะกำหนดชี้อนาคตทางการเมืองของประเทศ ควรยกเลิกไปเสีย นับเป็นการล่วงเลยเวลาแล้วสำหรับการหวนคืนสู่ประชาธิปไตย”

ทางด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในสหรัฐฯ ระบุในบทบรรณาธิการในวันเดียวกัน ว่า กองทัพไทยกำลังพยายามทำในสิ่งที่ล้มเหลวมาแล้ว นั่นคือ ความพยายามที่จะกำจัดอิทธิพลทางการเมืองของตระกูลชินวัตร





วอชิงตันโพสต์แสดงความคิดเห็นว่า หลังยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย กองทัพไทยแทบไม่มีผลงานจะแสดง เศรษฐกิจชะงักงัน นับว่าแย่ที่สุดในเอเชียชาติหนึ่ง การปรองดองที่เหล่านายพลให้คำมั่นไว้ยังไปไม่ถึงไหน มีการดำเนินคดีนักโทษทางการเมืองนับร้อย และกำลังจะเอาผิดทางอาญากับอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกทั้งกฎอัยการศึกก็ยังไม่ยกเลิก

บทบรรณาธิการบอกว่า กองทัพไทยกำลังพยายามทำในสิ่งที่ล้มเหลวมาแล้วสองรอบ นั่นคือ การสร้างระบบการเมืองที่กำจัดอิทธิพลของตระกูลชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศนั้น ทักษิณใช้ท่าทีแบบอำนาจนิยม นโยบายของเขาบางเรื่องมีข้อผิดพลาด แต่การโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้งสามชุดนับแต่ปี 2549 รังแต่ทำให้เขาได้รับเสียงสนับสนุนเหนียวแน่นยิ่งขึ้น บรรดานักวิเคราะห์ชาวไทยเชื่อว่า หากมีการจัดการเลือกตั้งที่เสรีในวันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ หรือตัวแทนจากตระกูลนี้ ก็จะชนะอีกครั้ง

สุดท้าย วอชิงตันโพสต์วิเคราะห์ว่า ทหารไทยวางแผนที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่มีการลงประชามติ และใช้ระบบการเมืองที่เอียงข้าง โดยทหารและผู้สนับสนุนกองทัพจะเข้าไปนั่งในรัฐสภา พรรคการเมืองถูกคุมเข้ม การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใต้กฎอัยการศึก.

Source: The Guardian, Washington Post

Photo: AFP