วันจันทร์, ตุลาคม 26, 2558

เมื่อวานนี้ข่าวดีหน่อย ‘หมอหยองยังไม่ตาย’




เมื่อวานนี้ข่าวดีหน่อย ‘หมอหยองยังไม่ตาย’

นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ออกมาแก้ข่าวลือเรื่องผู้ต้องหาตายอีกคนว่า

“นายสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง หนึ่งในผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ขณะนี้ยังคงอยู่ในเรือนจำ แต่มีอาการโรคความดันกำเริบ”

(อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/crime/395769)

มิใยพวกเราๆ ผู้เกาะติดข่าวสารออนไลน์ ยังสงสัยไม่หาย ไหงคดี ๑๑๒ นี้ลึกลับ ซับซ้อนซ่อนงำเหลือหลาย

ประวิตร โรจนพฤกษ์ คนหนึ่งละ ที่เคยมีประสบการณ์ถูกผูกตาควบคุมตัวในห้องมืด ถามว่าห้องคุมขังสารวัตรเอี๊ยดผนังโบกปูนมิดสี่ด้าน ไฉนมีลูกกรงให้ผูกคอตายได้

ขณะที่ Nation TV รายงานเมื่อตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ต.ค. นี้ว่า

“พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในการนำศพพ.ต.ต.ปรากรมมาชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง”

จะว่าติดเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่น่าจะใช่ ดังที่ ผบก. บอกนักข่าวว่าถ้าราชทัณฑ์ส่งมาก็จะไปชันสูตรด้วยตัวเองทันที ส่วนว่าถ้าราชทัณฑ์โคตะระใจเย็นรอวันจันทร์ก็เจริญพรนั่นละ

ประดาชน inquiring minds เลยได้โอกาสเปลี่ยนอริยบทปันใจให้กับเรื่องสำคัญอื่นๆ ของบ้านเมืองกันบ้าง




อย่างกรณีครบรอบ ๑๑ ปีเหตุการณ์ตากใบ ที่ Atukkit Sawangsuk เขียนบทรำลึกเอาไว้น่าคิด

“คือผมไม่เคยเห็นทักกี้เป็นฮีโร่ประชาธิปไตย เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอะไรเลย ทักษิณก็มีทัศนะแบบตำรวจทหาร จัดการปัญหาแบบ ‘ฆ่าตัดตอน’ แต่ไอ้พวกที่ด่าทักษิณสิ ทำแบบเดียวกันและทำยิ่งกว่าด้วยซ้ำ”

(อ่านข้อความเต็มได้ที่ http://thaienews.blogspot.com/2015/10/11.html)

หรือข่าวการผลักดันให้รัฐธรรมนูญใหม่ฉบับ ‘มีชัย’ บรรจุบทว่าด้วยการกำหนดศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ที่ดูเหมือนจะมีคนเห็นดีเห็นงามกันด้วยไม่น้อย ไม่ว่าจะเหลืองหรือแดง นัยว่าเคยมีความพยายามบรรจุใน รธน. ๕๐ ครั้งหนึ่งแล้วโดนต้านจนต้องถอนออก

(ข่าวละเอียดที่นี่ http://www.bangkokpost.com/…/push-to-make-buddhism-state-re…)




คราวนี้ควรต้องมีการถกเถียงให้ถึงแก่นอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแท้จริงว่าเหมาะหรือที่ประเทศไทยจะกลายเป็นรัฐศาสนา (Secular state) แต่ก็น่าเสียใจที่รัฐบาลคณะรัฐประหารชุดนี้กดขี่-หยามน้ำใจประชาชนยิ่งกว่าชุดก่อนของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

แถมยุคนี้ยังมีสมีวิปัติที่เป็น side kick ในคราบศาสนาของคณะรัฐประหาร คอยระรานทั้งฆราวาสต่างความคิดและศาสนิกต่างนิกาย แล้วลอยชายเย้ยคุณธรรมแห่งกฏหมายอยู่ไม่วางวาย




ล่าสุดพระสุวิทย์อิสระเรียกพล กปปส. เตรียมการจะ crash งานบุญชาวบ้านมหาชัยไทย-พม่า การตักบาตรพระหมื่นรูปที่สนธิธรรมร่วมกับสำนักธรรมกาย มุ่งหมายนำรายได้ไปเกื้อกูลพระสงฆ์ในสามจังหวัดเขตตึงเครียดภาคใต้

นับเป็นคุณแก่ คสช. ที่พระสุวิทย์ไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อก่อกวนตามที่มาดหมายไว้บนเฟชบุ๊ค ไม่เช่นนั้นจะยิ่งเป็นเหตุเสื่อมทรามหนักเข้าไปอีก

หลังจากที่ทหารพื้นที่จังหวัดอุดรธานีห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปทอดผ้าป่า และมีทหารติดตามความเคลื่อนไหวและถ่ายภาพระหว่างทำบุญที่จังหวัดหนองคาย แม้แต่ตอนลุกไปห้องน้ำ

อันเป็นที่วิจารณ์ของชาวบ้านว่าล่วงล้ำเกินเลยมากไป นอกเหนือจากคดีจำนำข้าวที่รัฐบาลทหารมุ่งหมายใช้อำนาจพิเศษเรียกค่าเสียหายจากอดีตนายกฯ หญิง ทั้งที่คดีในทางศาลยังไม่เป็นที่ยุติ

เป็นเหตุให้มีข้อโจมตีว่าจงใจมุ่งร้ายทำลายพวกชินวัตร ขณะที่คดีคอรัปชั่นอื่นๆ ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กลับได้รับการเพิกเฉย

ซ้ำหนักเข้าไปใหญ่เมื่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ อ้างว่ากรณีคอรัปชั่นต่างๆ ของพรรค ปชป. ไม่มีใครชงมาให้รัฐบาลดำเนินการ ส่วนคดีจำนำข้าวยิ่งลักษณ์นี้ ปปช. เป็นผู้ยื่นเรื่องมาให้




ปิดท้ายปลายสัปดาห์แห่งความลึกลับ ต่อการที่กองทัพไซเบอร์นานาชาติ Anonymous ประกาศก่อกวนราชการไทยด้วยการระดมเข้าแฮ็กเว็บไซ้ท์รัฐบาลอาทิตย์ละครั้ง จนกว่าจะมีการยกเลิกโครงการจัดตั้ง Single Gateway อย่างถาวรจริงจัง มิใช่บิดเบือน โกหกแต่เพียงนอกหน้า แต่ว่าโครงการจำกัดควบคุมเสรีภาพทางอินเตอร์เน็ตของประชาชนยังดำเนินต่อไป




เมื่อวันวานปรากฏว่าเว็บของกระทรวงแรงงานถูก Anonymous ทะลวงเข้าไปยึดครองโดยไม่ได้ก่อความเสียหายให้แต่อย่างใด เป็นแต่เพียงสัญญลักษณ์ทางประจักษ์แก่รัฐบาลทหารว่า

การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้ทำให้สามารถกดขี่ได้อย่างเด็ดขาดเสมอไป