วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 21, 2558

ความในใจของนักธุรกิจคนนึง...อาทิตย์ที่ผ่านมา เครียดมาก ยอดขายของบริษัทตกลงหนักที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา 40 ปี...




ที่มา เว็ปไซต์ พันทิป

มันก็คงมาจากหลายสาเหตุ ถ้าเศรฐกิจดี คนอื่นดีหมดแล้วผมแย่ คงสรุปได้ว่า ที่แย่เพราะตัวเราเองไม่พัฒนาหรือธุรกิจกำลังไปไม่ถูกทาง
ช่วงนี้ ภาวะ ณ ตอนนี้ ไม่สิ

มันตั้งแต่ เป่านกหวีดแล้ว นั่นก็ว่าแย่แล้ว ชะลอตัวแล้วนะ
พอมีอาเซนอล เข้ามาจัดการ ล้างระบบใหม่ เหมือนจะมีดีขึ้นชั่วขณะนึง

หลังจากนั้นก็ ค่อยๆ ลงๆๆๆๆๆ จนมาถึงวันนี้
ของที่เคยขายได้ ขายดี กลับขายไม่ดี
ของที่เคยขายส่งสร้างรายได้ ตอนนี้เงียบ
คนที่เคยซื้อของไปขาย บ้างก็ปิดกิจการไปแล้วก็มาก
ไปทำอย่างอื่น ขายที่ดิน กู้แบงค์ จำนอง บ้างอะไรสารพัด

เรื่องพวกนี้ ในรุ่นวัยผม ไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนทีไร ไม่ได้คุยหรอกครับ
เรื่องธุรกิจเหมือนเรื่องไกลตัว วัยผม น้อยคนที่จะได้เข้ามาอยู่บริหารจัดการ
แบกรับภาระในบริษัทแบบที่ผมทำอยู่ ผมเชื่อว่าคนที่เริ่มต้นก่อนมันได้เปรียบ

คนที่ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาโรงเรียนวันแรกแล้วจองที่นั่งหน้าสุด ของห้องมักจะประสบความสำเร็จ

บางที ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ผมเชื่อว่า หลายๆคนก็คงอยู่ในอารมาณ์เหมือนผมตอนนี้
เศร้า สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ...... ผมก็เป็นครับ ทุกวันนี้

แต่ที่น่าเศร้าใจที่สุดคือ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ในสถาณการณ์แบบนี้
พวกเรา คนตัวเล็กๆ ก้มหน้าก้มตากันต่อไป
บอกเลย ทุกวันนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าสาเหตุคืออะไร

อะไรคือสาเหตุครับ

เรากำลังเผชิญปัญหากันอยู่รึเปล่า
หรือแค่ผม หรือแค่คนบางคน หรือแค่คนบางกลุ่ม

ผมเห็นร้านอาหารบางร้าน ที่เคยขายดี กลับเงียบ
ร้านเหล้าราคาถูก มีคนมากขึ้น เยอะจนล้นร้าน

ของ สินค้า ลดราคามากมาย
บางคนก็ใช้จ่ายเหมือนเดิม
เพื่อนๆผมที่เป็นแค่พนักงาน
เงินเดือนก็ออกปกติ
แต่กลับผม ผมกลับต้องรัดเข็มขัดอยู่ร่ำไป
ใช้จ่ายแบบคิดเยอะ

อะไรจำเป็น อะไรรอได้ อะไรต้องเดี่ยวนี้
ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ผมถามพ่อ พ่อก็บอกไม่เคยเจอมาก่อน
แล้วไอ่คนหนุ่มที่เพิ่งหักขึ้นหลังม้าอย่างผม อาจจะเป็นม้าตัวเล็กๆ แต่ถ้าล้ม
ไม่ใช่แค่ผม ครอบครัวผม ภรรยา อีก

ผมเคยคิดว่าปีนี้ ผมไม่หวังให้ขายดี ขอแค่เท่าปีที่แล้ว
เราพอยืดไปนะ ช่วงนี้ต้องค่อยๆพยุงๆไป
อีกซักพักน่าจะดีขึ้น

นกหวีดปี 56 ปลายปี อาเซนอลมากลางปี 57 นี่จะผ่านไปอีกปีนึงแล้ว

มันก็พูดยากนะ บางทีผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าเราพลาดตรงไหน
สรุปคือ ตอนนี้ผมไม่รู้เลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนไม่ใช้จ่าย
เงินที่เคยใช้จ่ายกันทุกๆบ้านหายไปไหน หลายๆคนก็คงเป็นแบบผม
รัดเข็มขัดจนพุงปลิ้นแล้ว ก็ของมันขายไม่ได้

ของขายไม่ได้ เพราะอะไร ของไม่ดี หรือคนไม่ซื้อของ

ไม่รู้หวะ ไม่รู้จริงๆ เฮ้ยใครรู้บ้างครับ

ถ้าเราหาสาเหตุไม่ได้แล้วเราจะแก้ยังไงครับ

ไอ่ที่ออกข่าวโครมๆ คนนึงว่าแย่ๆๆๆๆ รัฐบาลบอกดีขึ้นแล้วๆๆๆๆ
เฮ็ย ยังไงกันแน่วะ งง

เอางี้ใครดีใครแย่ เม้นเลยฮะ เม้นเลย
อยากรู้ เพราะอะไร ทำไม สาเหตุ บอกมาเลย เม้นมาเลย
เครียดฮะ แม่มมม

จริงๆแล้วที่ผมตั้งกระทู้เนี่ย คือผมบอกว่า อาทิตย์ที่แล้ว เครียดมาก
แต่ตอนนี้ไม่เครียดเท่าไหร่แล้ว พอดีผมไปเจอน้องคนนึงเป็นรุ่นน้อง

ชีวิตเค้า หนักกว่าผมอีก เป็นนักร้องกลางคืน กลางวันเรียนมหาลัย
ที่บ้าน ฐานะไม่ดี ต้องสู้เลี้ยงดูตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก
ภรรยาผมเล่าให้ฟังว่า น้องเค้าเล่นคืนนึงได้ 500
ภรรยาผมกะว่าจะพาไปเลี้ยงข้าว สามคนสามพัน
เชื่อมมั้ย เค้าไม่ยอมให้ภรรยาผมเลี้ยง

แล้วน้องเค้าก็เป็นผู้หญิงนะ ได้วันละ 500 กินข้าวมื้อละพันก็ยอมจ่าย ไม่ยอมให้เลี้ยง

ผมฟังก็เลย เฮ้ย เค้าบอกเค้ามี 700 นะ ภรรยาผมบอกไม่เป็นไร
คือ เด็กมันน่ารักมั้ย มันดูแลที่บ้านด้วย เลี้ยงดูตัวเอง คือเงินในบัญชี
ไม่เคยมีเกินห้าพันอะ เดือนชนเดือน ในบัญชีนี่ สองพันก็หรูแล้วอะ

แล้วกลับมามองตัวเรา บอกเลยว่าอายน้องเค้ามาก
คือ นี่เราเป็นอะไรวะ ทำไมเราถึงไม่สู้เหมือนน้องเค้า
คือเราสู้แล้วไง แต่เราสู้ เราก็ยังสบายๆอะ
ไม่ต้องเดือนร้อนผ่อนนู่น ผ่อนนี่
ค่าบ้านไม่มี ค่าโทรศัพท์ก็มีจ่าย คือเรื่องเงินหมุนมันยังดี
แต่ของขายไม่ได้ เราก็ต้องประหยัด ลดรายจ่าย
ปรับตัวไปให้มันรอดพ้นจากตรงนี้ไปได้

คือผมไปเจอเรื่องนี้มาแล้วผมอยากจะบอกทุกคนว่า
อยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ประสบปัญหาเหมือนผม

คุณเคยดู ชีวิต 800 มั้ย
ผมร้องไห้

เรื่องน้องที่เป็นนักดรตรี ผมฟังแล้วยังซึมเลย
คือทุกคนเจอปัญหาเหมือนกัน แต่เราต้องใช้ความคิดมากๆ
ในการทำให้ธุระกิจเราไปได้ อย่าจมกับปัญหา
อาทิตย์ที่แล้วผมจมกับปัญหามาก

แต่ตอนนี้ที่ผมสู้มาตลอดๆ ทุกอย่างมันก็ส่งผลแล้ว
ผมเชื่อว่าทุกคนจะเจอทางออก แต่มันมักจะอยู่ไกล แทบสุดปลายอุโมงค์
แต่นั่นแหละ เหมือนที่เราเกิดมา
เราเกิดจากสเปริมที่แข็งแรงที่สุด และรวดเร็วที่สุดเช่นกัน

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ตอบกลับ