วันอาทิตย์, กรกฎาคม 30, 2560

ห่านอู-วินธัย วัวสันหลังหวะแก้ตัวแก้ต่างกันระห่ำ

วัวสันหลังหวะ ละสิ ดาหน้ากันออกมาแก้ตัว แก้ต่างกันระห่ำ โน ไม่ใช่เรื่องนางนราพร จันทร์โอชา แต่งชุดดำทำพิธีวันเฉลิมฯ ร.๑๐ (เห็นที่ปารีสเขาก็แต่งกัน คงเอาอย่างราชธิดาละมัง)

แต่เป็นเรื่องข้าวดีขายเป็นข้าวเน่า เพราะใช้มาตรฐานหม่อมหลานคิดเอง กับเรื่องน้ำท่วมอีสาน บานเบอะที่สกลนคร ใครๆ ก็อยากลงไปช่วย ยกเว้นลุงตูบไม่ว่าง ทหารอากาศก็ไป นายตำรวจหย่ายเอาบ้าง

แล้วก็ อ้อ ทหารเรือยังยุ่งไปไม่ได้ (ไม่ใช่รอเรือดำน้ำจีนหรอกนะ หากแต่) ต้องไล่เก็บคลิปเมียด่าพวกพลทหาร ๒๐ นาย ที่เกณฑ์ไปใช้งานในร้านอาหารของตน ใครไม่รู้แอบปล่อยออกมานองเน็ต

ประเด็นคลังข้าว ๘ แห่งร้องให้ทางการตรวจสภาพใหม่ หลังจากที่มีทั้งคลิป ทั้งหนังสือร้องเรียนทางการ ระบุว่าทหาร-ตำรวจตรวจข้าวแบบปกปิดไม่ให้เจ้าของเห็น ข้าวเป็นพันๆ กระสอบ ตรวจแค่ ๕ แล้วบอกว่าข้าวเน่า ตามมาตรฐานของ ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล ปลัดสำนักนายกฯ คนก่อนที่โด่งดังซื้อไม้ค์ทองคำใช้ในทำเนียบฯ
 
มอบให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดฉากปฏิเสธ อ้างว่า ๕ ใน ๘ แห่งมีข้าวต่ำกว่ามาตรฐาน (เกรด ซี) ปนอยู่เกินร้อยละ ๒๐ อีก ๓ โกดัง เป็นข้าวเสียเกินกว่าร้อยละ ๘๐ ใช้บริโภคไม่ได้ทั้งคนและสัตว์ ต้องใช้เป็นเชื้อเพลิงพลังงานเท่านั้น


ด้านโฆษกรัฐบาลทหารพล.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เอาเชียว หาว่าออกมาเรียกร้องกัน “ในช่วงใกล้วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคพวก

ซึ่งอาจตีความได้ว่า หวังให้เกิดผลทางคดีหรือเรียกร้องความเห็นใจจากสังคม” นั่นละสิ โดนกลั่นแกล้งรังแก หากไม่มีทางสู้ก็ต้องเรียกร้องความสนใจของสังคมในทางสาธารณะ

ทั่น ห่านอู ยังกระแนะกระแหนเป็นทำนองว่า พวกรัฐประหารสืบทรัพย์พบเงินของอดีตนายกฯ หญิง ๑๖ บัญชี ตอนโดนยึดทรัพย์นี่ไหงมีจำนวนน้อยกว่าเมื่อตอนพ้นตำแหน่งได้ปีเดียว


ตอนนั้นแจ้งไว้ ๖๑๒ ล้าน ตอนนี้เท่าที่กรมบังคับคดีถอนเอาไปเก็บไว้ในพกตัวเอง รออายัด ๗ บัญชี มีแค่หลักแสน

ยิ่งกรณียึดทรัพย์นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ พอลิ่วล้อ คสช. ล้วงเข้าไปถึงบัญชี พบว่ามีเหลือแค่ ๒,๗๐๐ บาท

โธ่ ถัง จะกล่าวอ้างโจมตีว่าเขาหมกทรัพย์หรือผ่องถ่าย อย่างใดๆ ก็แล้วแต่ มัน justified สมควรอยู่นะ คนจะโดนตบทรัพย์ จะให้เขาเอาเงินมากองไว้รอโจรอย่างนั้นหรือ

แล้วนี่อีกคน โฆษกคณะยึดอำนาจ คสช. บอก เรื่องน้ำท่วมอีสานอย่าโยนบาปรัฐบาล ฝนตกหนักบางพื้นที่ปริมาณมากเกินไป การระบายน้ำตอบสนองไม่เต็มที่ มันก็ต้องท่วม

การให้ข้อมูลในบางลักษณะอาจทำให้สังคมเข้าใจได้ว่า อาจมีเรื่องการเมืองผสมมาด้วย อย่างในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา”

พล.อ.วินธัย สุวารี อ้างด้วยว่าอุทกภัยครั้งนี้ “มีความต่างอย่างมากกับเมื่อครั้งปี ๕๔ เพราะครั้งนั้นปริมาณฝนไม่ได้ตกมาในลักษณะฉับพลันแบบนี้”


แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ อย่างนี้ไม่ใช่สองมาตรฐานหรอกนะนี่ แต่ไม่มีเลยซักมาตรฐาน ถึงได้มีคอมเม้นต์จาก โลกแม่งดัดจริต shared Wassana Nanuam's post.

“น้ำท่วมยุคอีปูว์ = อีโง่ นายกควาย บริหารเหี้ยๆ จนน้ำท่วม น้ำท่วมยุคท่านตูบ = น้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมชาติ วอนอย่าโยนบาปให้รัฐบาล”

ตัวหัวหน้ายิ่งแล้วไปใหญ่ วันก่อนเอาอีก พูดเรื่องราคายางพารา บลา บลา รู้ดีไปถึงมาเลย์-อินโด แถมมุสา “รัฐบาลนี้กล้าพูดความจริง” โทษรัฐบาลโน้น “แก้ปัญหาแบบเอาตัวรอดไปวัน ๆ หรือเลี้ยงไข้เพื่อเรียกคะแนนเสียง


สามปีกว่ามานี่เคยรับผิดชอบอะไรบ้างไหม ทำอะไรผิดพลาดโทษรัฐบาลที่แล้วก่อ พอแก้ไขอะไรไม่ได้อ้างเป็นปัญหาสะสม นี่ดีนะยังไม่เผลอพูดว่าที่น้ำท่วมชักจะหนักในปีนี้เพราะสะสมมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนเมื่อสามปีที่แล้ว

กับเรื่องอะไรที่เข้าเนื้อตัวเองละเงียบกริบ อย่างกรณีคลิปหลุดภรรยานาวาเอกยืนบริภาษณ์พวกพลทหารที่เอาไปใช้งานในร้านอาหารส่วนตัวที่ระยอง ไม่มีเงินเดือนแต่ให้อยู่กินที่ร้าน แล้วหักเบี้ยเลี้ยงคนละ ๓๐๐ บาทต่อเดือนเป็นค่าเช่า

ที่ร้ายก็ตรงที่ไอ้เณรถึง ๒๐ คนเหล่านี้ ไม่มีใครกล้าฮึดฮัดขัดขืน ไม่งั้นจะถูกส่งลงใต้ให้อยู่เขตอันตรายชายแดน นับเป็นพฤติกรรมกดขี่เยี่ยงทาส เข้าข่าย ค้ามนุษย์ดังที่ Siriphon Kusonsinwut ประจานว่า


“ไม่มีความชั่วร้ายใดที่จะต่ำทรามไปกว่า การกดหัวเพื่อนมนุษย์ด้วยกันลงเป็นทาสแบบนี้” และมี Social Hunter ช่วยรณรงค์วิงวอน #ผู้มีอำนาจโปรดช่วยเหลือพลทหาร @ร้านอาหาร จ.ระยอง ด้วย