วันเสาร์, มีนาคม 26, 2559

พระชายแดนใต้ประกาศไล่ พุทธะอิสระ ออกจากหมู่สงฆ์ (สาธุๆ)




คณะสงฆ์ชายแดนใต้นิมนต์สงฆ์ทั่วประเทศร่วมประกาศ“อุกเขปนียกรรม”ลงทัณฑกรรมขับพระพุทธะอิสระออกจากหมู่สงฆ์ อ้างพระธรรมวินัยเหตุเป็นภิกษุพาล รุกรานภิกษุไม่เว้นพระเถระ เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขณะที่เจ้าคุณประสาร ประกาศเดินหน้าเคลื่อนไหวอีกครั้ง

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2559
ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์

วันนี้( 25 มี.ค.) พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่รับกิจนิมนต์พิเศษของนายกรัฐมนตรีอยู่แต่เพียงลำพังฝ่ายเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายไม่หยุด ไม่เลิก ไม่ลดราวาศอก วิธีแบบนี้ไม่สามารถทำให้ปัญหายุติลงได้ หลังจากการประชุมหารือร่วมกันแล้ว ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา พร้อมภาคีเครือข่าย จึงมีมติร่วมกันให้เดินหน้าหาความเป็นธรรมในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งขอขอบพระคุณเจ้าคณะพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ภาคีเครือข่าย และองค์กรพุทธทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่ให้การสนับสนุนและให้คำมั่นสัญญาต่อกันในความร่วมมือเหมือนที่เคยทำร่วมกันมาแล้ว พวกเราทั้งหมดพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อเดินไปข้างหน้าในการแสวงหาความเป็นธรรมต่อไป

ในวันเดียวกัน พระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท เลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ ได้ออกจดหมายเปิดผนึก ถึง ท่านพุทธะอิสระ ความว่า ข้าพเจ้า พระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท วัดเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงท่านพุทธะอิสระ และกลุ่มที่หนุนหลังให้เคลื่อนไหวทำลายพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ เพื่อชี้แจงกรณีที่ท่านได้เขียนบทความเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ก มีเจตนาเบี่ยงเบนให้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ว่า พระเถระภาคใต้ 2 รูป คือ พระอธิการฉัตรชัย อธิจิตโต หรือรู้จักในนาม เจ้าชัย ศิษย์บางใหญ่ เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระครูวิรัติธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หรือชาวบ้านรู้จักท่านในนามหลวงพ่อมีชัย เป็นพระสายธรรมกาย เป็นลิ่วล้อการเมือง ออกมาปกป้องตามใบสั่ง เป็นต้น เป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ก้าวร้าว ดูหมิ่น เหยียดหยาม สร้างความเสียหายแก่พระเถระภาคใต้ทั้ง 2 รูป

ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ทั้ง2 รูป ท่านเป็นพระของชาวบ้าน ทำเพื่อพระพุทธศาสนา เป็นพระวิปัสสนาจารย์ หนักในการเจริญพระกรรมฐาน แต่ก็รักในความถูกต้อง ไม่เล่ห์เหลี่ยม ไม่เข้าพวกกับการเมือง แม้ในยามพระสงฆ์และชาวพุทธบาดเจ็บ ล้มตาย จากเหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านไม่เคยทิ้งพระเณร ไม่เคยทิ้งชาวพุทธในพื้นที่ การที่ท่านพุทธะอิสระออกมาพูดให้ร้ายพระสงฆ์ภาคใต้ทั้ง 2 รูป เสมือนหนึ่งว่า บัดนี้ ท่านได้ประกาศตัดขาดจากพระสงฆ์ภาคใต้แล้ว

ในนามเลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ เห็นว่า พุทธะอิสระเป็นภิกษุพาล เที่ยวรุกรานภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ไม่เว้นแม้พระนวกะ มัชฌิมะ หรือพระเถระผู้เฒ่าปูนชรา จึงเห็นสมควรตัดขาดภิกษุเช่นนี้จากคณะสงฆ์ ขอให้พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล จงร่วมกันลงทัณฑกรรมตามแนวพุทธวิธีที่ทรงอนุญาต ประกาศอุกเขปนียกรรม ขับไล่ทุมมังกุภิกษุผู้ไร้ยางอายนี้ ออกจากหมู่สงฆ์ ลงโทษให้สมกับที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนา โดยกำหนดจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อแจ้งให้รัฐบาลถวายความอุปถัมภ์ ในการที่คณะสงฆ์จะดำเนินการทางพระธรรมวินัย ลงอุกเขปนียกรรม ขับพุทธะอิสระออกจากหมู่สงฆ์ เพื่อนำความเรียบร้อยดีงามคืนสู่พระพุทธศาสนาต่อไป