วันอังคาร, พฤศจิกายน 24, 2558

เชื่อไหมว่า ในกัมพูชา มีถนนขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร (เราคนไทย ถูกผู้กุมอำนาจรัฐไทยหลอกให้โง่มา ครึ่งศตวรรษ ว่าเขมรขึ้นไม่ได้ ต้องมาขึ้นฝั่งไทย เพราะหน้าผาสูงเท่าตึก Empire State)




Up the Preah Vihear in Cambodia...
ขึ้นเขาพระวิหาร ในกัมพูชา 19/11/15

เชื่อไหมว่า ในกัมพูชา มีถนนขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร

เมื่อ 19/11/15 ผมไปขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร กับ CKS
เราขึ้นโดยทางรถยนตร์ ที่เป็นคอนกรีตอย่างดี

(เราคนไทย ถูกผู้กุมอำนาจรัฐไทยหลอกให้โง่มา ครึ่งศตวรรษ
ว่าเขมราขึ้นไม่ได้
ต้องมาขึ้นฝั่งไทย
(เพราะหน้าผาสูงเท่าตึก Empire State
คำของอภิสิทธิ อภิปรายในสภาฯ เพื่อล้มรัฐบาลสมัครฯ)

เราขึ้นไปครึ่งทาง ถนนวกวน งามมาก
ปัจจุบัน กัมพูชา มีทางขึ้น สามทาง

ทางแรก เป็นบันไดโบราณ
(นโรดมสีหนุ ขึ้นทางนั้น ตอนชนะคดี 2505)
ทางที่สอง เป็นถนนคอนกรีด ทำเสร็จไปแล้ว ครึ่งหนึ่ง
อีกเกือบครึ่ง ชัน แต่รถ ก็ขึ้นได้
(นั่งรถขึ้น ได้อารมณ์ เหมือนดูหนัง Boundary ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง)

อีกทาง ที่สาม เป็นบันไดไม้/ทหาร ลงไปทางด้านเป้ยตาดี (ลิงชุมมาก)

เราตัดสินใจลงเดิน เพื่อได้ถ่ายภาพ
ระยะทางไปจนถึง พลับพลาแรก มีบังเกอร์ทหาร เต็มไปหมด
กองทัพเขมรา น่าสนใจ ตรงที่ทหาร
เอาครอบครัว เมีย ลูกเต้า พ่อแม่ มากินนอนอยู่ด้วย เต็มไปหมด

ทหารเคลื่อนด้วยกองกำลัง ข้าวปลา อาหาร และลูกเมีย
รายทาง ปักธง หลากสี ของชาวพุทธ (ฉพรรณรังสี)
จนถึงบริเวณ วัดแก้วฯ ที่มีอุบาสกอุบาสิ
มีพระเณร อยู่หลายรูป
(รัฐไทยว่า เป็นวัดใหม่ ตั้งขึ้นเพราะการเมือง
รัฐเขมราบอกว่า นานแล้ว
นี่ เป็นการเถียงเรื่อง กรรมสิทธิ)

ที่ลานจอดรถ ใกล้พลับพลาจตุรมุข มีร้านค้าร้านขาย หลายสิบแห่ง
แต่นักท่องเที่ยว ประปราย ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งยุโรป
เห็นมีมาจากญี่ปุ่น และ เกาหลี
(แต่นักท่องเที่ยวเกรดรองๆ อย่างจีน/ไทย ไม่เห็น)

ใกล้ๆ กับพลับพลาจตุรมุข กัมพูชาปักธงไว้สูงลิบ
มีธงกัมพูชา มีธงยูเนสโก และธงสหประชาชาติ
เผชิญ กับ หนึ่งธง ฝั่งตรงข้าม ด้านมออีแดง คือ ธงชาติไทย

ผมถึง "บางอ้อ" ทันที เข้าใจแล้วล่ะว่า
ทำไม ? กัมพูชา/นโรดมองค์แรก (why) ตรงสมัย ร.๔
ถึงหันไปรับอารักขาฝรั่งเศส French protectorate
ก็เพื่อให้หลุดจากอำนาจครอบงำของสยาม (และเวียดนาม) นั่นเอง

ยุคนี้ กัมพูชา ก็มี (และอิง) ทั้ง ยูเนสโก และ สหประชาชาติ เป็นผู้ช่วยคุ้มกันให้
รวมทั้งอิง อาเซียน ต้องการพหุภาคี ที่รัฐไทย ไม่ชอบ ต้องการทวิภาคี มากกว่า
(กัมพูชา รู้ดีว่า ถ้าทวิ หรือ ก็เสมือนปิดประตูตีแมว
และหากมีสงคราม ตนก็ย่อยยับ เขมราอ่อนกว่าทั้งอาวุธ และกำลังทหาร)

เราเดินลงไป จนถึงบันไดนาค หัวลิง แล้วก็จะลงไปต่อ
เพื่อจะไปดูบริเวณเส้นเขตแดน กัมพูชากับไทย (ตรงไหนก็ไม่รู้)
แต่ไปไม่ได้ ต้องห้าม
เราเดินกลับ เพื่อปีนขึ้นไป ยังปราสาทองค์บนสุงสุด
ของ ภัทเรศวร และเป้ยตาดี
(เป้ย เป็นคำขะแมร์ แปลว่า โหนก ยื่น ตา คือ ตา ดี คือ ดี
ชื่อชาวบ้าน แบบเดียวกับ มออีแดง ฝั่งไทย)

ครับ น่าเสียดาย น่าเสียดาย น่าเสียใจ และน่าสมเพช
ก่อนวิกฤต 4.6 ตร.กม. ปี/2551
ที่ พธม และ ปชป และกองทัพสายเหยี่ยว จุด ปลุกระดม
(ผมสงสัยว่า ทั้งสนธิ ลิ้มฯ และ หรือ อภิสิทธิ์ เวช
เคยขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร หรือไม่ ก็ไม่รู้ ???
และใครหนอ ที่สร้างวาทกรรม 4.6 ตร.กม. ขึ้นมา
เป็น "วาระซ่อนเร้นอย่างเปิดเผย" ในการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง)

อันว่า ปราสาทเขาพระวิหารนั้น
เคยเข้า/ขึ้นชมได้แสนจะง่ายดายทางฝั่งไทย
เสียค่าผ่านออกแดน 10 บาท ให้เสนาอำมาตย์รัฐไทย
เสียอีก 20 บาท ให้เสนาอำมาตย์รัฐเขมรา

ชาวบ้านทำมาค้าขาย มีเงินมีทอง มีชีวิตที่ดีกว่านี้
ธุรกิจชาวบ้าน เป็นเงินแสน เงินล้าน

ชาตินิยม ล้าหลัง คลั่งชาติ (ของ พธม และ ปชป กับสายเหยี่ยวในกองทัพ)
backward obsolete nationalism
ทำให้รัฐไทยต้องเสียเกียรติภูมิใน วงการเมือง รป.

ปี 2505/1962 ก็แพ้คดีศาลโลกมาแล้ว 9 ต่อ 3 สมัยสฤษดิ์
ปี 2551/2008 ยูเนสโก ก็ขึ้นมรดกโลกให้เขมร 21 ต่อ 0 สมัยสมัคร

ล่าสุด เขมรกลับไปให้ศาลโลก ตีความใหม่ สมัยยิ่งลักษณ์
ศาลโลก 2013 ก็ยืนยันตามเดิม เป็นเอกฉันท์ คือ 15 ต่อ 0
ว่าทั้ง promontery เทือกเขาพระวิหารนั้น อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา
(เรื่องนี้ ก็เลย เงียบต๋อม หายไป หลังจาก ดราม่า กันจนบ้านเมืองแทบพินาศ)

ครับ ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นการเมืองภายในของไทย
ที่ฝ่ายอำนาจเดิม บารมีเดิม สถาบันเดิมๆ
ต้องการเอาชนะฝ่ายตรงข้าม (ฝ่ายทักษิณ/สมัคร/สมชาย)
ผลร้าย ตกกับประเทศชาติ กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศของอาเซียน

รัฐไทยกลายเป็นประเทศเจ้าปัญหาสุดๆ sick ในอาเซียน
(มีรัฐประหารแล้ว ก็มีอีก มีเขียนรัฐธรรมแล้ว ก็ซ้ำๆ อีก เป็นฉบับที่ 20
มากสุด แสนทุเรศ ทุรังสุดในอาเซียน และ สากลโลก)

ชาวบ้านชายแดน ทหาร ตำรวจ (ตัวเล็กๆ) ต้องบาดเจ็บล้มตาย
ธุรกิจ การค้า การขาย ชายแดนแถบศรีสะเกษ พังพินาศ

วาทกรรม ปลุกระดม "เสียดินแดน" 4.6 ตร.กม.
เป็นวาทกรรมหลอกไพร่
หลอกผู้ดีชนชั้นกลาง ระดับ ป.ตรี/โท/เอก กทม

อีลีต/ชาวกรุง/ผู้ดี นั่นแหละ
เป็นผู้สร้าง "วาทะ"
แล้วนอนอยู่บ้าน อยู่ห้องแอร์ สบาย
ว่างๆ ก็ไปเที่ยวเมืองนอก ไปแล้วไปอีก ราวไปจ่ายตลาด หรือ เดินห้าง

รากหญ้า/ชาวบ้าน/กระบือ
พ่อค้า แม่ขาย ทหารตัวเล็ก ตัวน้อย
รับ "กรรม" ไป ครับ
เมื่อไร เราจะพ้น "ปลักคนดี" กันเสียที หนอ

cK@ไกลคนดี23/11/15