วันพุธ, กันยายน 09, 2558

ชวนอ่าน... ข้อความจากอดีต สปช.หัวโจก NGO อดีตคนเดือนตุลา ที่เผยแพร่ในหมู่พวกเขา หลุดมาให้อ่านชวนฮา (และชวนอ้วก)



ที่มา FB


Atukkit Sawangsuk

ข้อความจากอดีต สปช.หัวโจก NGO อดีตคนเดือนตุลา ที่เผยแพร่ในหมู่พวกเขา หลุดมาให้อ่านชวนฮา (และชวนอ้วก)

บอกแล้วไง ไปรับใช้รัฐประหารจนพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งเป็นผี แล้วยังมาโจมตี คสช.อีก สะอิดสะเอียนว่ะ (ใช้คำใหญ่ด้วยนะ ขบวนการปฏิรูปภาคประชาสังคม คุยจังยังกะพวกตัวมีพลังมหาศาล)
..........................................
"ว่าด้วยโหวตรธน.วันนี้"

รายงาน:

- วันนี้สปช.สายคัดค้านฯสามารถโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญได้สำเร็จแบบหวุดหวิด คือ รับ 105:ไม่รับ135:งดออกเสียง7

- ผลการลงคะแนนเป็นไปตามโผที่ปล่อยออกมาผ่านสื่อมติชน147คนก่อนหน้านี้โดยส่วนใหญ่

- นับเป็นการพิสูจน์อิทธิฤทธิ์ของสัญญาณอันแรงเข้ม ที่ส่งจากกลุ่มทหารที่มีอำนาจ ผนวกกับขนมหวาน200ตำแหน่งที่ออกแบบไว้ และผลของการล็อบบี้อย่างเป็นขบวนการได้เป็นอย่างดี

- ผลโหวตคราวนี้ ทำเอาขบวนปฏิรูปภาคประชาสังคมและสปช.ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิต่างรู้สึกเซ็งไปตามๆกัน

วิเคราะห์:

- ในเรื่องการปฏิรูปนั้น นับตั้งแต่การยึดอำนาจ22พค2557 ผ่านมาแล้ว16เดือน ถึงวันนี้นับว่ายังไม่มีการปฏิรูปเรื่องใดที่ได้ขับเคลื่อนจริงแม้แต่อย่างเดียว สิ่งที่สปช.ได้ทำไว้ให้แก่ประเทศ คือ แค่ได้ออกแบบพิมพ์เขียวการปฏิรูปด้านต่างๆ(37วาระปฏิรูป 9วาระการพัฒนา 6ประเด็นปฏิรูปเร็ว 50ร่างพรบ.ที่เกี่ยวข้อง) มอบไว้ให้แก่สังคมเท่านั้น

- ผลการโหวตวันนี้ ทำให้หลักประกันในการขับเคลื่อนการปฏิรูประดับโครงสร้างข้างบนที่ออกแบบไว้ในร่างรธน.และร่างพรบ.ประกอบรธน.ทั้งหมดเกือบจะตกลงมาเหลือ 0 เลยทีเดียว สิ่งที่เป็นบลูพริ้นท์ของสปช.ทั้งหมดเกือบไม่มีความหมายแล้วสำหรับรัฐบาล นี้ เว้นเสียแต่ภาคประชาสังคมจะรู้จักนำสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้ออกไปใช้ขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงวิธีคิด พฤติกรรมและความสัมพันธ์ในสังคมด้วยตัวเราเอง

มองอนาคต:

- สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปที่รัฐบาลจะตั้งขึ้นใหม่นั้น จะเป็นเพียงเครื่องมือของรัฐบาลเท่านั้น มิใช่เครื่องมือของสังคมอีกต่อไป

- แท้ที่จริง รัฐบาลคสช.มิได้มีความเข้าใจ หรือ มีใจให้กับการปฏิรูปมาตั้งแต่ต้น เขาเชื่อกลไกราชการมากกว่า ในขณะเดียวกันก็หวาดระแวงภาคประชาสังคมและมีท่าทีต่อต้านการปฏิรูปอยู่ในส่วนลึกตลอดเวลา ในเกือบทุกเรื่องที่สปช.คิดกัน

- กลไกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปทจะขึ้นเกิดใหม่ จะได้รับความร่วมมือจากขบวนปฏิรูปภาคประชาชนน้อยลงไปอีก เพราะส่วนประกอบจะเต็มไปด้วยข้าราชการ ทหารตำรวจและกลุ่มแนวคิดอนุรักษ์หรือปฏิปักษ์ปฏิรูปทั้งสภา

- ส่วนกลุ่มสปช.ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางสังคมเดิม อาจจะถอยออกห่าง วางเฉยหรือไม่ก็สงวนท่าที ด้วยไม่อยากเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลใช้

- จากนี้ไป คสช.และรัฐบาลคงจะอยู่ในภาวะขาลงและโดดเดี่ยวขึ้นเรื่อยๆในอัตราที่เร่ง นปช.พรรคการเมือง เอ็นจีโอและกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เคยไม่ชอบคสช.และรัฐบาลอย่างไรก็คงไม่ชอบอยู่เหมือนเดิม อย่าไปหวังว่าจะได้คะแนนนิยมกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มมวลมหาประชาชนและภาคประชาสังคมที่เคยสนับสนุนคสช.และรัฐบาลก็จะพากันผิดหวังและถอยต้วออกห่าง

- อัศวินสมคิด(รองนายก)จะช่วยคุณประยุทธ์ได้แค่ไหน

- มาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สมคิดกำลังทำอยู่ ถ้าหากไม่มีเครือข่ายประชาสังคมเข้าหนุนเสริม จะมีอะไรที่แตกต่างไปจากนโยบายประชานิยมที่นักการเมืองทุกพรรคเขาทำกันมาก่อนหน้านี้

- เม็ดเงินงบประมาณและเงินทุนของประเทศที่ทุ่มลงไปรากหญ้า โดยผ่านกลไกระบบราชการ จะสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นทุนทางสังคม ทุนทางสิ่งแวดล้อมหรือทุนทางโครงสร้างเศรษฐกิจฐานล่างในระยะยาว ได้จริงแค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม

- แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือการลดความคาดหวังการเปลี่ยนแปลงจากข้างบน และหันกลับมาสู่ขบวนปฏิรูปภาคปฏิบัติจากฐานล่าง เปลี่ยนสำนึก วิธีคิดและระบบความสัมพันธ์ในหมู่ประชาชนพลเมืองและสังคมไทยเป็นด้านหลัก.