วันอาทิตย์, สิงหาคม 31, 2557

ประโยคทอง Only a few people care the rest are just curious.


... ประโยคทอง

Only a few people care the rest are just curious.

"มีไม่กี่คนหรอกที่แคร์ ที่เหลือก็แค่อยากรู้อยากเห็น "

ใครชอบคำไหนคอมเม้นกันนะครับ

...อย่าลืมแชร์ ถ้ามีประโยชน์นะคะ
ooo

เรื่องที่อาจจะเกี่ยวข้อง...

การที่ศาลอาญาตัดสินยกฟ้อง โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินคดี นั่นเท่ากับ เห็นด้วยว่า ไม่เคยมีใครฆ่าใครตาย ในปี 53

เพราะถ้าเชื่อว่ามีคนตาย อย่างไร ศาลอาญาก็ต้องทำคดีต่อ

ส่วนการโยนให้ศาลฎีกาการเมือง ก็เพื่อจะเปลี่ยนให้เป็นคดีใช้อำนาจหน่าที่โดยมิชอบ

ซึ่งต่อมา ศาลการเมืองจะตัดสินให้เทพมาร์คไม่มีความผิด เพราะจะอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้องเพื่อระงับความรุนแรง

ทั้งหมดเป็นการตัดสิน บนพื้นฐานว่า

ไม่เคยมีคนตายในปี 53

ทั้งหมดคือหลักคิดที่เป็นมาตั้งแต่ 6 ตุลา

เป็นการสถาปนาว่า ฝ่ายซ้ายไร้ค่า สามารถตายได้

เพราะระหว่างเหตุการณ์ขวาพิฆาตซ้าย

พระกิตติวุฒโฒพูดว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป

หลังจากนั้น พล ร อ สงัด ชลออยู่ ก็พูดว่า คนตายก็ให้แล้วกันไป

ในระหว่างปี 53 พระว วชิรเมธี ก็บอกว่า ฆ่าเวลา บาปกว่าฆ่าคน

หลักคิดแบบนี้จะดำเนินต่อไป

ขวาพิฆาตซ้าย

ศักดินา พิฆาต ประชาธิปไตย

Kulwit
ooo

ญาติเหยื่อสลายชุมนุมแดง53 เตรียมเคลื่อนขอความเป็นธรรมพรุ่งนี้ วอนคสช. เข้าใจไม่ได้ต้าน


ที่มา ประชาไท
Sat, 2014-08-30 20:51

หลังศาลอาญายกฟ้องคดี ‘อภิสิทธิ์-สุเทพ’ ร่วมกันก่อให้เกิดการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ จากการสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 ล่าสุดกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเผยเตรียมเคลื่อนขอความเป็นธรรมพรุ่งนี้ 4 จุด วอนให้โอกาสเคลื่อนเพราะไม่ได้ต่อต้าน คสช.

30 ส.ค.2557 หลังจากเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องคดีพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83, 84 และ 90 จากกรณีออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เมื่อปี 2553 ทำให้เห็นมีผู้ถึงแก่ความตาย และบาดเจ็บจำนวนมาก

โดยศาลระบุว่ามูลเหตุแห่งคดี เป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวหาจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ ผอ.ศอฉ. ซึ่งเป็นความผิดตามอำนาจหน้าที่ราชการ และเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงอยู่ในอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หาใช่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาไม่ ศาลอาญาจึงไม่มีอำนาจรับคำฟ้องของโจทก์ทั้ง 2 สำนวน จึงพิพากษายกฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 2 และยกฟ้องการขอเป็นโจทก์ร่วม

ล่าสุด นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมลเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตระหว่างสลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ในวันที่ 19 พ.ค. 2553 เปิดเผยว่าทางญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 จะมีการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมฟ้องศาลประชาชน 4 จุด ในวันพรุ่งนี้(31 ส.ค.57)บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS โดยเริ่มจากสวนจตุจักร ประมาณ 10 โมงเช้า จากนั้นจะมีการพูดคุยปรึกษาหารือกับผู้ร่วมกิจกรรมว่าจะดำเนินการอย่างไรและเคลื่อนต่อมายัง อนุสาวรีย์ชัยฯ เเยกปทุมวัน และหน้าวัดปทุมฯ กิจกรรมที่จะจัดนี้เกิดจากการพูดคุยกันกับกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ

นางพะเยาว์ กล่าวด้วยว่า ความเป็นธรรมมันไม่เกิด แม้กระทั่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญายังแย้งออกมา(อ่านรายละเอียด) หากต่อไปคนเป็นนายกรัฐมนตรีมีการสั่งให้ใช้กระสุนจริงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเล็งเห็นผลได้อยู่แล้วว่าจะเกิดความเสียหายกับชีวิตประชาชน จนนำมาสู่การสังหารประชาชน แล้วกลับบอกว่าให้โอนคดีไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ทั้งที่การสังหารประชาชนนั้นไม่ใช่เรื่องการทุจริต ดังนั้นคดีนี้ต้องเป็นคดีอาญา อีกทั้งตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเองก็พูดตลอดว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมที่จะสู้คดี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลับมีคำตัดสินแบบนี้ จึงถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

สำหรับความกังวลกับการถูก คสช. ดำเนินการจับกุมตัวหากทำกิจกรรมนั้น นางพะเยาว์ มองว่า คสช. จะเน้นดำเนินการกับผู้ที่เคลื่อนไหวโจมตี คสช. แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มญาตินี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อต้าน คสช. ดังนั้นจึงอยากให้ คสช. พิจารณาถึงการเคลื่อนไหวนี้ด้วย